โอกาสในการเติบโต มาจากสมองที่เปิดรับ

“ใครจะไปคิดว่าเข้าเวิร์กชอปเรื่องความเป็นผู้นำ แล้วต้องมาเรียนเรื่องเคมีสมอง!”

ยังจำรีวิวของ CEO ท่านหนึ่งที่เขียนให้กับเวิร์กชอป Anatomy of Leadership ของคุณแดเนียลได้แม่น หลังจากที่เขาได้เข้าเวิร์กชอปพร้อมกับทีมของเขา
ในมุมที่ได้พบเจอกับผู้นำหลายท่านที่ได้เข้าร่วมเวิร์กชอป บทสนทนาทำนองที่ว่า
“เราก็ให้โอกาสเต็มที่แล้วนะ”
“เราไม่เคยว่าอะไรเขาเลยด้วยซ้ำ”
“ก็มีพื้นที่ให้เขาเสนอไอเดียตลอด ทำไมเขายังไม่กล้า?”

 

มันคือคำถามของผู้นำที่ ตั้งใจดีมาก ๆ ที่บางครั้งมันก็นำมาซึ่งความเหนื่อยใจอย่างเงียบ ๆ เพราะเขารู้สึกว่าตัวเองก็ “เป็นให้ทุกอย่างแล้ว” แต่คนในทีมยังไม่ก้าวไปไหน

บทความนี้ก็เลยอยากขอเริ่มด้วยการลองอยากตั้งคำถามชวนคิด กับผู้นำที่เราอาจยังไม่เคยเจอกันมาก่อน

คุณคิดว่าระหว่างพื้นที่แห่งการเติบโตที่คุณพยายามมอบให้ กับเสียงในหัวของทีมงานของคุณ อะไรมีอิทธิพลมากกว่ากัน ?

คนในทีมคุณที่คุณมองจากประสบการณ์ก็รู้ว่ามีของ แต่ยังไม่กล้ายกมือพูดในที่ประชุม เพราะเขาอาจกำลังติดอยู่กับเสียงในหัวที่บอกตัวเองว่า
“สิ่งที่เราจะพูด คงไม่สำคัญพอ”
“เราไม่ใช่คนทำอะไรแบบนั้นได้หรอก อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในเร็ว ๆ นี้”
“เดี๋ยวพลาดขึ้นมา ทุกคนจะมองยังไง”
ต้นเหตุของเสียงพวกนี้มันไม่ได้มาจากคุณ แต่มาจาก จิตใต้สำนึก ที่เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าถูกโปรแกรมไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่
ใช่ บางคนเรียกมันว่า “เสียงในหัว” แต่ถ้าเรามองลึกลงไปอีก มันไม่ใช่แค่เสียงแต่มันคือ “รูปแบบการตอบสนอง” ที่สมองคุ้นชินและเรียนรู้มาแบบนั้น
ในเวิร์กชอป Anatomy of Leadership เราจึงชวนเหล่าผู้นำไปสำรวจว่า เสียงเหล่านั้นเกิดจาก ระบบภายในของร่างกาย ที่ตอบสนองและส่งผลต่อพฤติกรรมต่าง ๆ อย่างไร

และมีประเด็นหนึ่งที่ผู้เข้าอบรมหลายคนพูดถึงบ่อย นั่นคือเรื่องสารเคมีในสมองที่ชื่อว่า Dopamine กับ Serotonin
มันไม่ใช่แค่ศัพท์วิทยาศาสตร์เก๋ ๆ แต่เป็น “ประตู” ที่ทำให้เราเข้าใจว่า หลายพฤติกรรมที่เราเห็นในทีม และไม่เคยเข้าใจมัน ว่าทำไมพวกเขาถึงตัดสินใจแบบนั้น แบบนี้ และจริง ๆ มันไม่ได้เกิดจากความขี้เกียจ ความไม่สู้งาน การบริหารจัดการที่ไม่ดีของพวกเขา แต่มาจาก วิธีที่สมองและร่างกายตอบสนองต่อสิ่งรอบตัว ที่หากปราศจากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ และการยกตัวอย่างประกอบที่สอดคล้องกับบริบทของเหตุการณ์เหล่านั้น อาจจะยากในการทำความเข้าใจ

อย่างไรก็ตาม นี่คือ Short note ที่ CEO ท่านดังกล่าวเขียนในรีวิว

Dopamine
– Dopamine เปรียบเสมือนเครื่องยนต์ของสมอง คอยปล่อยพลังเมื่อเราเข้าใกล้เป้าหมาย
– กระตุ้นแรงจูงใจ ทำให้เราตื่นเต้นที่เห็นความคืบหน้า และช่วยให้เรารู้สึกอยากลุยงานต่อไปเรื่อย ๆ
– ถ้าเราหั่นเป้าหมายใหญ่ให้เล็กลง (celebrate small wins) เราจะรู้สึกว่าความสำเร็จอยู่ใกล้มือขึ้น Dopamine ก็จะหลั่งบ่อยขึ้น ส่งผลให้ทำงานได้ต่อเนื่องโดยไม่หมดไฟง่าย
– ไม่ใช่แค่พฤติกรรมที่ดีเท่านั้นที่จะหลั่ง Dopamine แต่ความสุขสั้น ๆ จากสารกระตุ้น หรือการทำสิ่งที่น่าสนใจกว่า ณ ตอนนั้นแทนสิ่งที่ควรทำ ก็เป็นตัวกระตุ้นการสร้างนิสัยในทางลบได้ ลองสังเกตตัวเองถ้าหลุด focus บ่อย หยิบมือถือมาไถ social media แบบไม่รู้ตัว

Serotonin
– Serotonin เกิดจากการบรรลุเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง พอเราทำสำเร็จบ่อยครั้ง (เก็บแต้ม Serotonin ) มันจะค่อย ๆ สร้างความเชื่อมั่นให้เราเอง กลายเป็นความมั่นใจและความผ่อนคลายมากขึ้น
– ผู้นำที่ดี มักเป็นคนที่มี Serotonin สูง สามารถเผชิญความท้าทายใหม่ ๆ ได้โดยไม่ตื่นตระหนก

เป็นปกติเมื่อจบเวิร์กชอป ผู้นำอีกหลายๆท่านก็จะในห้องแบ่งปันกันว่า พวกเขาเคยคิดว่าปัญหาของทีมอาจเริ่มจากการมีเป้าหมายไม่ชัดเจน หรือแรงจูงใจที่มากพอ ทว่าพอได้เรียนรู้เรื่องนี้ เขาเริ่มเห็นว่า ทีมไม่ได้ขาดไฟ แต่ไม่รู้ว่า “เปิดสวิตช์ของตัวเองตรงไหน” ต่างหาก
หลายองค์กรพยายาม “จ่ายไฟแรง ๆ” หวังว่าจะจุดประกายให้ทีมลุกขึ้นมาเต็มศักยภาพ แต่สุดท้ายไฟนั้นก็ดับลงเร็ว เพราะพวกเขาลืมไปว่าหลอดไฟจะไม่สว่างได้เลย ถ้าสวิตช์ไม่ได้อยู่ในตำแหน่ง “เปิด” และสายภายในยังขาดอยู่เงียบ ๆ
การพัฒนาคนก็เหมือนการดูแลระบบไฟในอาคาร มันไม่ได้อยู่ที่ว่าเราใส่หลอดไฟวัตต์แรงแค่ไหน
แต่อยู่ที่ว่า

  • สวิตช์อยู่ตรงไหน? (เขาเข้าใจหรือยังว่าจะเริ่มที่จุดใด)
  • ระบบสายเดินยังดีอยู่ไหม? (สมอง–มุมมอง–พฤติกรรม เชื่อมกันได้ดีอยู่หรือเปล่า)
  • เราดูแลความเสถียรของไฟยังไง? (มีการ Maintain อย่างต่อเนื่องไหม หรือจุดติดวูบวาบแล้วก็ดับ)

ในโลกที่เปลี่ยนเร็วแบบนี้ องค์กรที่ไม่เข้าใจ “ระบบภายในคน” อาจกำลังลงทุนกับหลอดไฟแพงที่สุด แต่ลืมดูว่า สายไฟเชื่อมกันอยู่หรือเปล่า?
หากคุณคือผู้นำที่อยากให้ทีมของคุณเติบโตจากภายในจริง ๆ Anatomy of Leadership อาจเป็นจุดเริ่มต้นในการฟัง “ระบบของคน” ที่ตอบโจทย์ของคุณ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *