AntiClassroom ได้รับเกียรติจาก 1 ในผู้เข้าร่วมเวิร์กชอป 7 Point Plan คุณชวลิต เดชะนรานนท์ หรือที่หลายๆท่านเรียก “พี่ง้วง ติดกระดุมเม็ดแรก” ปัจจุบันพี่ง้วงประกอบธุรกิจออนไลน์ ขายสินค้ากลุ่มอาหารเสริม, ของใช้ภายในบ้าน และเป็นผู้สอน Facebook Ads ให้กับ ผู้ประกอบการ, SME, เจ้าของแบรนด์ หรือพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้เข้าร่วมเวิร์กชอป 7 Point Plan และแนวคิดการทำ Facebook Ads โดยพี่ง้วง ได้รับ Certificated จากทาง Facebook Blueprint 2 ใบ (Media Planning

ก่อนและหลังที่พี่ง้วงได้เข้าเวิร์กชอป 7 Point Plan มีอะไรที่แตกต่างออกไปบ้างคะ ?
ก่อนเรียนพี่ง้วงมีปัญหาในการวาง Content ที่จะสื่อสารกับลูกเพจ หรือผู้ที่สนใจ ว่าจะเป็นไปในแนวทางไหน บางทีก็กังวลว่าเราจะสื่อสารแบบศัพท์เทคนิค Specialist เพื่อให้ผู้ฟังได้เข้าใจและรู้สึกว่าเราเป็นมืออาชีพ สมกับเป็น Certified Facebook ดีไหม
แต่หลังจากได้เรียน 7 Point Plan จากคุณ Daniel ทำให้รู้การวาง Potisioning ของเรา ว่าเราต้องให้การให้แบรนด์ของตัวเอง ไปใน Mood & Tone ไหน ซึ่งสำหรับพี่ง้วง พี่ง้วงอยากช่วยนักเรียนเข้าใจสิ่งที่ยากได้ง่ายขึ้น ทำให้พี่ง้วงสามารถ Focus ทิศทางได้อย่างถูกต้อง รวมถึงวางแผนการดำเนินงาน และการสอน ได้อย่างตรงจุด ไม่หลงทิศหลงทางครับ

ทักษะอะไรที่พี่ง้วงคิดว่าจำเป็นอันดับ 1 ในการใช้ทำโฆษณาด้วย Facebook Ads ?
ทักษะที่สำคัญที่สุด คือการศึกษา ทำความเข้าใจในเรื่องของการซื้อโฆษณา Facebook อย่างมีหลักการและเหตุผล
พี่ง้วงได้สัมผัสกับนักเรียนจำนวนมาก รวมถึงหลายๆท่านที่เคยซื้อโฆษณาทาง Facebook แล้ว หยุดไป เนื่องจากไม่เข้าใจในหลักการ ทำให้ค่าโฆษณาแพงขึ้นอย่างหาสาเหตุไม่ได้ จนสุดท้ายรับต้นทุนไม่ไหว (ที่ร้ายแรงที่สุดคือตัดพ้อแล้วบอกว่า Facebook หลอกลวง ระบบไม่มีความเสถียร, ไม่มีทางทำกำไรจาก Facebook ได้หรอก)
หน้าที่ของพี่ง้วงคือช่วยให้นักเรียนซื้อโฆษณาผ่านช่องทาง Facebook Platform อย่างถูกต้อง เข้าใจ ไม่ใช่การเดา รู้จัก Customer Jouney, Empathy และ CRM เพื่อให้ได้กำไรอย่างยั่งยืนครับ

พี่ง้วงคิดว่าแนวโน้มของโฆษณา Facebook จากนี้ 1-2 ปี จะเป็นอย่างไร มีอะไรที่นักการตลาดควรเตรียมตัว ?
สิ่งที่ต้องเตรียมตัวคือ “ความรู้ที่อัปเดต เป็นปัจจุบัน”
ถ้าวันนี้เรายังใช้องค์ความรู้ จาก 2-3 ปีที่แล้ว อาจจะใช้ไม่ได้กับ ปี 2021 นี้ เนื่องจากโลกออนไลน์ มีการเปลี่ยนแปลง ทั้งทางเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภคเร็วมากกว่า โลก Modern Trade หรือ Traditional Offline หลายเท่า
ดังนั้น ความรู้ที่ถูกต้อง + วิธีการที่อัปเดต จะทำให้ผู้ซื้อโฆษณา สามารถเอาชนะตลาดได้ไม่มากก็น้อย เพราะค่าโฆษณามีแนวโน้มที่จะแพงขึ้นตลอดเวลา เนื่องจาก Facebook เป็นระบบประมูล ดังนั้นยิ่งมีผู้เข้ามาซื้อโฆษณามากขึ้น เท่ากับค่าโฆษณาจะแพงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเหตุการณ์ Covid-19 และการ Lock Down ส่งผลให้ผู้คน สนใจลงโฆษณาทาง Facebook เพิ่มขึ้นเป็นอัตราก้าวหน้ามากๆ
สังเกตว่ายักษ์ใหญ่เริ่มขยับมา Online มากขึ้นแล้ว เช่นห้างใหญ่ในเมืองได้มีการ Live สด เพื่อขายสินค้าในแผนกทำให้ยอดขายบางวัน มากกว่า คนที่ Walk-in ไปที่ห้างซะอีก
ก่อนจากกันพี่ง้วงมีอะไรอยากฝากถึงผู้อ่านบ้างคะ ?
สิ่งที่พี่ง้วงแนะนำนักเรียนทุกคน คือ “ไม่สำคัญว่า เราจะรู้มากน้อยแค่ไหน” แต่เราสามารถ “รู้เท่าทันกันได้” เพียงเราไม่ทำตัวเป็น “น้ำที่เต็มแก้ว” และพร้อมจะ “ปรับตัวได้เร็ว” ต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น พี่ง้วงคิดว่า Online Platform โดยเฉพาะ Facebook จะไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็น “ทางรอด” ของหลายๆกิจการในปัจจุบัน
สำหรับท่านที่สนใจอยากเรียนรู้กับพี่ง้วง กดเพิ่มเพื่อนและสอบถามได้ทาง