หลายธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ติดตลาดทุกวันนี้ บ้างก็เริ่มต้นจากจุดเล็กๆไปสู่ Story ที่ยิ่งใหญ่ เช่น Lamborghini, Onitsuka tiger, Vivienne Westwood
การขยายธุรกิจเป็นสิ่งที่ดี มันช่วยหล่อเลี้ยงความฝันของพนักงานที่อยากโต ทำให้บริษัทมีมูลค่าและกำไรที่มากขึ้น แต่การจะขยับขยายธุรกิจได้นั้นอาศัยทั้งการวางแผนที่ดีและทรัพยากรที่เหมาะสม ปัญหาที่มักจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะกับธุรกิจท้องถิ่นก็คือ เจ้าของธุรกิจไม่มีเวลาวางกลยุทธ์ เพราะมัวแต่ไปทำงานด้าน Operation
คุณ Daniel นักจิตวิทยาองค์กรที่ AntiClassroom ทาบทามมาแบ่งปันความรู้บ่อยๆก็เคยพูดไว้ในเวิร์กชอปว่า เราต้องให้การจำกัดความที่ชัดเจนว่าการขยายธุรกิจของเราหมายถึงอะไร เช่น
- การจองคิวเข้ารับบริการเต็มทุกวัน ?
- มีสินค้าใหม่ออกมาขาย ?
- การรับพนักงานเพิ่ม ?
หากไม่มีความชัดเจนและไม่มีแผนการในอนาคตที่ดี ทุกอย่างก็สะเปะสะปะ และองค์กรก็อยู่ในความเสี่ยง
การจะผันตัวเองมาเป็น Strategist หรือผู้วางกลยุทธ์นั้น ผู้นำต้องชัดเจนกับบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบ โดยนำตัวเองออกมาจากงานด้าน Operation ให้ได้
จ้างคนเก่งมาทำแทนสิไม่เห็นยาก
การจ้างคนเก่งมาทำแทนใครๆก็พูดได้ แต่วิธีคัดกรองคนที่เก่งและเหมาะสมกับองค์กรเราจริงๆ(Interview Matrix) และวิธีรักษาให้เขาเหล่านั้นอยู่กับเราไปนานๆเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยมีใครเอ่ยถึง
นอกจากนี้เนื้องานบางอย่างไม่ต้องอาศัยคนที่เก่งก็สามารถบรรลุเป้าหมายได้ อยู่ที่ผู้นำมีทักษะการสื่อสารที่ดีพอจะทำให้ลูกน้องเข้าใจ และกล้าที่จะสื่อสารไหม ผู้นำสามารถมองเห็นและเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้องขาดได้หรือไม่(Internal Leadership)
ถ้าเราอยากขยายธุรกิจ ต้องทำอย่างไรจึงจะสามารถผละจากงานด้าน Operation เพื่อให้มีเวลาคิดวางกลยุทธ์ขยับขยายธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือโจทย์ที่ผู้นำต้องจัดการให้ได้
AntiClassroom แนะนำให้อ่าน 4 ขั้นตอนการติดตามงานช่วง WFH มีเนื้อหาบางส่วนเกี่ยวกับการสื่อสารกับลูกน้องที่สามารถนำมาปรับใช้ได้