คุณ M หัวหน้าฝ่าย Recruitment ของบริษัทแห่งหนึ่ง 1 ผู้เข้าร่วมเวิร์กชอปของ AntiClassroom ได้แบ่งปันมุมมองที่น่าสนใจว่า
ขณะหลายคนดีใจที่ได้ทำงานในบริษัทที่มีชื่อ แต่เราต้องไม่ลืมในแง่ที่ว่า ยิ่งบริษัทมีชื่อเสียงหรือมั่นคงเท่าไหร่ เราก็ยิ่งเสี่ยงมากขึ้นเท่านั้น ด้วยชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่บริษัทสั่งสมมา ทำให้มีคนที่พร้อมจะมาแทนเราตลอดเวลา
หลายคนไม่ได้คำนึงถึงจุดนี้ แต่หลายคนก็ไหวตัวทัน จึงเป็นที่มาของการกอดงานประจำไว้ให้แน่น โดยเฉพาะในยุคที่ Covid ยังไม่จากเราไปไหน
ล่าสุดคุณ M ไปเยือนบริษัทของว่าที่ลูกค้าชื่อคุณ S
คุณ M ได้รับคำบอกเล่าจากคุณ S ว่าพนักงานบางคนวิตกกังวลถึงขึ้นคอยสอดส่องทุกการเคลื่อนไหวของบริษัท เลิกงานก็ไม่ยอมกลับบ้าน พยายามทำตัวให้เป็นประโยชน์กับบริษัทด้วยการขออาสาทำ OT แม้บริษัทจะไม่มีนโยบายการทำงานล่วงเวลาก็ตาม
ถ้าเป็นที่อื่น พนักงานลักษณะนี้อาจถูกเอาเปรียบได้ แต่คุณ S กลับมองว่า พนักงานที่กลัวจะตกงานควรเอาเวลาตรงนี้ไปเรียนรู้ทักษะใหม่ๆที่ดีต่ออนาคตพวกเขายังจะดีกว่า
หากเก่งขึ้น และคิดว่าทักษะนั้นเป็นประโยชน์กับองค์กร ก็อยากให้ลองเจรจาต่อรองขอขึ้นเงินเดือนเลย หรืออาจจะลองไปสมัครงานที่อื่นที่คิดว่า Caree path อาจตอบโจทย์คุณมากกว่าก็ยังได้
AntiClassroom เองก็เห็นด้วย
การทำ OT เนื้องานเดิมๆติดต่อกันภายในระยะเวลา 2 เดือน เทียบกับการใช้เวลาเดียวกันนี้เริ่มเรียนรู้ทักษะใหม่ๆที่จำเป็น อย่างไหนจะเป็นประโยชน์กับอนาคตเรามากกว่า
ว่ากันตามตรง หลายคนเองก็อยากเปลี่ยนงานใจจะขาด แต่รู้สึกไม่มีคุณสมบัติเทียบเท่าเงินเดือนที่ตัวเองต้องการ
หรือบางคนอาจจะไม่ได้ทำงานที่ตัวเองรัก ก็แต่ขาดความมั่นใจในตัวเอง
การกอดงานประจำให้แน่น แท้จริงแล้วสามารถกอดแน่นๆได้ตั้งแต่ได้เริ่มงานเลย นั่นคือการที่เราพัฒนาตัวเองให้กลายเป็น Talent ที่ช่วยให้องค์กรเติบโต ผ่านพ้นวิกฤต ไม่ใช่ Cost ที่เป็นเพียงต้นทุนที่องค์กรต้องแบกรับ
ด้วยทัศนคติที่เห็นคุณค่าของการพัฒนาบุคลากรอย่างจริงจัง คุณ M และคุณ S ก็ได้ร่วมงานกันอย่าง Happy ending 😊
มาเปลี่ยนบทบาทของคุณ ด้วย Interview Matrix เวิร์กชอปที่จะเปลี่ยนจากการไล่ล่าบริษัทในฝัน เป็นบริษัทในฝันไล่ล่าคุณ รู้วิธีที่องค์กรใหญ่เล็กใช้ในการคัดกรองคนอย่างหมดเปลือก