ขายไม่ดี ก็หาตัวแทนสิ
สินค้าถูกตัดราคา ก็ผลิตเองเลย
ทุกอย่างเป็นไปได้ หากเราไม่ยอมแพ้
เชื่อว่าเจ้าของธุรกิจหลายคนที่กำลังประสบปัญหายอดขายตัน คงเคยได้รับคำแนะนำจากผู้อื่นที่ปรารถนาดีอยากช่วยชี้ทางออกให้เราในทำนองข้างต้น
เมื่อหลายสิบปีก่อน เราก็เคยเป็นคนที่มีปัญหาดังกล่าว เมื่อได้รับคำแนะนำดีๆก็ไม่รอช้า รีบลงมือทำทันที(อ่านหนังสือมาเยอะ เขาบอกคนประสบความสำเร็จต้องทำทันที)
ปรากฏว่าเจ๊งไม่เป็นท่า ปวดหัวมากกว่าเดิม
เพราะบางครั้งการทำตามคำแนะนำที่ดี โดยไม่สำรวจตัวเองอย่างถี่ถ้วน นำมาสู่ปัญหาใหม่ๆ
แต่หลังจากที่ได้มีโอกาสเป็นผู้คัดเลือกเวิร์กชอปของคุณ Daniel และเข้าร่วมในเวิร์กชอปทุกครั้ง ความรอบคอบต่อสิ่งที่ตัวเองเลือกก็มีมากขึ้น
สิ่งที่จะถ่ายทอดวันนี้ ไม่ได้มาจากการแปลและเรียบเรียงเหมือนครั้งก่อนๆ แต่มาจากการจำได้จนขึ้นใจในสิ่งที่คุณ Daniel เคยแบ่งปันผ่านในเวิร์กชอป และการปฏิบัติตาม
ถ้าจะหนีเสือ ให้แน่ใจว่าจะ ไม่ปะจระเข้
1. ทุกอย่างเป็นไปได้ หากเราไม่ยอมแพ้ จริงหรือ ? (Internal Leadership)
ตัวอย่าง ถ้าเรามีส่วนสูงไม่ถึง 150 cm. มีความฝันอยากเป็น Miss Universe พยายามแค่ไหน กองประกวดคงไม่อาจรับ เพราะคุณสมบัติของเราไม่ผ่าน
เราทุกคนต่างมีข้อจำกัดของตัวเอง
ลองสำรวจตัวเองดูว่าข้อจำกัดของเราที่เป็นอุปสรรคต่อเป้าหมายมีอะไรบ้าง ข้อจำกัดบางข้อทลายได้ แต่บางข้อก็ไม่ได้ ถ้าข้อจำกัดไม่สอดคล้องกับเป้าหมาย เราจะปรับเปลี่ยนแผนการอย่างไร ?
ลอง List ข้อจำกัดต่างๆออกมาดู
- ข้อจำกัดด้านอายุ
งานบางตำแหน่งอายุเกินก็ไม่สามารถสมัครได้แล้ว
- ข้อจำกัดด้านเวลา
เรามีเวลาลุยเหมือนตอนหนุ่มๆสาวๆหรือไม่ในวันที่เรามีลูกแล้ว
- ข้อจำกัดด้านสุขภาพ
เห็นได้ชัดว่าอดนอนตอนอายุ 40 กับตอนอายุ 20 ร่างกายย่อมตอบสนองไม่เหมือนกัน
- ข้อจำกัดด้านอารมณ์
ทำงานคนเดียวมาตลอด หากมีตัวแทน หรือลูกน้องแล้วเกิดความขัดแย้ง จะจัดการอารมณ์ตัวเองได้ไหม อย่างไร
- ข้อจำกัดด้านเงินทุน
อันนี้สำคัญมาก ถ้าสายป่านสั้น สั่งผลิตสินค้าแล้วระบายไม่ได้จะทำอย่างไร
- ข้อจำกัดด้านทรัพยากรบุคคล
Project ใหญ่แต่ขาดแคลนแรงงาน ก็ไม่สามารถเติบโตได้
เมื่อเราเริ่มสำรวจข้อจำกัดของตัวเอง เราจะเริ่มเห็นว่า ทุกอย่างเป็นไปได้ ขอเพียงเราไม่ยอมแพ้เป็นคำพูดที่ฟังแล้วทำให้รู้สึกดี แต่ไม่สมเหตุสมผลในความเป็นจริง
การที่ไม่ยอมแพ้ในธุรกิจที่เรียกร้องในสิ่งที่ตัวเราไม่อาจมีให้ได้ ทำให้เราพบกับความพ่ายแพ้มากกว่าเดิม
2 . รู้จักทรัพยากรของตัวเอง(ME)
คนเราไม่ค่อยตระหนักว่าเรามีอะไรในชีวิตบ้าง การรู้จักทรัพยากรของตัวเองช่วยเพิ่มศักยภาพในการทำงานของเรา ทุ่นแรง และประหยัดเวลา
โดยเฉพาะผู้ที่อยากจะสร้างธุรกิจ เมื่อปักธงว่าฉันจะทำสิ่งนี้ อยากเชื้อเชิญให้ลองสำรวจทรัพยากรที่เรามี ไม่ว่าจะเป็นทักษะของเรา บุคลิกภาพของเรา เครือข่ายที่เรามี ทั้งหมดมีด้านไหนบ้างที่เอื้อกับธุรกิจที่เราเลือก มีจุดไหนที่เราจะสามารถใช้เพื่อให้เกิดแต้มต่อได้ทันทีโดยไม่ต้องเริ่มจาก 0
เช่นหากเราสนใจอยากผลิตเครื่องดื่มและวางจำหน่ายตาม Supermarket ชั้นนำ อย่างไหนมีโอกาสและผลตอบรับที่ดีมากกว่ากัน ระหว่างการติดต่อเอง กับมีเพื่อนที่เป็นหัวหน้าฝ่ายจัดซื้อ ถ้าเราไม่มีคนในที่คอยช่วยเหลือ ช่องทางอื่นที่เราอาจผลักดันได้ดีกว่า เร็วกว่าด้วยทรัพยากรที่เรามีคือช่องทางไหน
ภาพโดย Igor Ovsyannykov จาก Pixabay
ยอดขายไม่ดี มันทำให้เราหมดความเชื่อมั่น ต้องรีบหาวิธีจัดการ แต่เราต้องทบทวนให้ดีว่าคำแนะนำใหม่ๆที่ทำให้เรารู้สึกฮึกเหิมนั้น แท้จริงแล้วสอดคล้องกับข้อจำกัดและทรัพยากรของเราหรือไม่
หลังจากสำรวจแล้ว เราอาจจะพบตัวเลือกใหม่ๆที่ไม่ตรงกับคำแนะนำของใคร แต่ทำแล้วมีทางไปได้ในแบบของเรา ไม่ต้องแข่งขันเข้าตลาดด้วยวิธีแบบเดิมๆก็เป็นได้